ความแตกต่างระหว่างสูตรเชิงประจักษ์และโมเลกุล ความแตกต่างระหว่าง

Anonim

ในทางเคมีมีหลายวิธีในการแสดงสารประกอบทางเคมี. คุณอาจใช้ชื่อสามัญเช่นโซเดียมคลอไรด์หรือเบนซีนหรือคุณอาจเลือกที่จะแสดงออกในสูตรทางเคมี สูตรทางเคมีมีข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีมากกว่าชื่อทั่วไป สูตรทางเคมีจะบอกคุณเกี่ยวกับอะตอมเฉพาะที่ทำขึ้นโดยเฉพาะสารเคมี

สูตรเคมีสองสูตรที่เห็นได้ทั่วไปคือสูตรการทดลองและสูตรโมเลกุล สูตรทั้งสองบอกคุณว่าธาตุใดประกอบกันเป็นสารเคมีชนิดใดชนิดหนึ่ง ตัวอย่างเช่น H2O (ทั้งโมเลกุลและสูตรเชิงประจักษ์) มีโมเลกุลของไฮโดรเจน (H) และโมเลกุลออกซิเจน (O) เมื่อมองไปที่ CaCl (แคลเซียมคลอไรด์) คุณจะรู้ได้ว่ามีอะตอมของแคลเซียม (Ca) และคลอรีน (Cl) อยู่ในนั้น

สูตรโมเลกุลและเชิงประจักษ์แตกต่างกันตามจำนวนที่อยู่ในห้อยของพวกเขา ตัวห้อยคือ '2' ใน H2O สำหรับสูตรโมเลกุลตัวห้อยจะอธิบายจำนวนอะตอมทั้งหมดในโมเลกุลเฉพาะ Hexane โมเลกุลที่มีอะตอม 6 อะตอมของคาร์บอนและอะตอม 14 อะตอมของไฮโดรเจนจะแสดงเป็น C6H14 ในสูตรโมเลกุล สำหรับสูตรเชิงประจักษ์ subscript อธิบายสัดส่วนของอะตอมในโมเลกุลเฉพาะ อีกครั้งเฮกเซนกับอะตอมของคาร์บอนหกและอะตอมของไฮโดรเจน 14 ในตอนนี้จะแสดงเป็น C3H7 เพราะนั่นคืออัตราส่วนของ 6: 14

ในหนังสือเรียนวิชาเคมีในโรงเรียนมัธยมศึกษาจะเห็นได้ชัดว่าสูตรอาหารเชิงประจักษ์มากกว่าสูตรโมเลกุล สูตรเชิงประจักษ์ยังอธิบายเกี่ยวกับสารประกอบไอออนิกและโมเลกุลเล็ก ๆ สารประกอบไอออนิกเป็นโมเลกุลที่จัดขึ้นร่วมกันด้วยแรงสถิตที่เกิดขึ้นเมื่ออนุภาคประจุลบทำปฏิกิริยากับประจุบวก โมเลกุลอะตอมโมเลกุลเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่เช่นกรดนิวคลีอิกและโปรตีน สูตรเชิงประจักษ์เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการแสดงสูตรของโมเลกุลที่ชัดเจน หากไม่มีสูตรเชิงประจักษ์ตัวเลขในตัวห้อยมีศักยภาพที่จะกลายเป็นจำนวนมหาศาล

สูตรเชิงประจักษ์สามารถใช้ในทางฟิสิกส์และเคมีได้ ในฟิสิกส์สูตรสมการทำหน้าที่เป็นสมการทางคณิตศาสตร์ สมการนี้ใช้ในการคาดการณ์ผลลัพธ์ที่สังเกตได้ในการทดสอบการเคลื่อนไหวและปฏิสัมพันธ์ของอะตอม

สรุป

1 สูตรเชิงประจักษ์และโมเลกุลมีทั้งสูตรทางเคมี

2 สูตรโมเลกุลแสดงอะตอมทั้งหมดในโมเลกุลในขณะที่สูตรเชิงประจักษ์แสดงอัตราส่วนของจำนวนอะตอมในโมเลกุล

3 สูตรเชิงประจักษ์ใช้เพื่ออธิบายถึงสารประกอบไอออนิกและโมเลกุลเล็ก ๆ

4 สูตรเชิงประจักษ์ใช้เป็นสมการทางคณิตศาสตร์ในฟิสิกส์