อะไรคือความแตกต่างระหว่าง Pseudocode กับ Algorithm? ความแตกต่างระหว่าง

ในแง่ง่ายๆ

ไม่ใช่รหัสปฏิบัติการดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ไวยากรณ์ที่แน่นอน แต่จะเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตามมาตรฐานที่ใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมซึ่งทีมงานโซลูชันสามารถเข้าใจได้ง่าย

< Unified Modeling Language (UML) และวิธีการสร้างแบบจำลองทางธุรกิจอื่น ๆ สามารถเรียกได้ว่าเป็นตัวอย่างของ pseudocode แม้ว่าจะไม่ใช่ข้อความแบบ purely ก็ตามเครื่องมือเหล่านี้ใช้เพื่อแสดงภาพของงานหรือกระบวนการที่กระทำได้

ที่ดีที่สุด การปฏิบัติเพื่อให้ชัดเจน pseudocode โครงสร้างและสมบูรณ์เพื่อช่วยแปลได้อย่างถูกต้องและเป็นส่วนสำคัญในการวางแผนการแก้ปัญหาและตรรกะการเขียนโปรแกรม

ถ้า pseudode ไม่มีอยู่สำหรับ อัลกอริทึมจากนั้นเวลาที่ไม่จำเป็นจะใช้เวลาคิดออกโซลูชันหรือแยกความคิดที่คลุมเครือบางอย่างใน t เขาเข้ารหัสเวทีมักจะมีกำหนดเส้นตาย

เมื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอัลกอริทึม, pseudocode จะแสดงความคิดเบื้องหลังว่ามันถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างไรและนักพัฒนาซอฟต์แวร์อาจจะคิดค้นหรือแก้ไขปัญหานี้อยู่เสมอ

ดูตัวอย่างเทียมนี้จาก Khan Academy

[i]

:

นี่คือ pseudocode แบบข้อความที่เขียนด้วยเครื่องมือการพัฒนาซอฟต์แวร์

จังหวะก่อนหน้า / / ระบุข้อความเป็นข้อคิดเห็น (หรือแสดงความคิดเห็นในเงื่อนไขการพัฒนา) ดังนั้นจึงไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรหัสปฏิบัติการ

ข้อความตัวหนาด้านล่างแสดงไวยากรณ์และมิติข้อมูลของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ตามที่อธิบายไว้ในข้อกำหนดใน pseudocode ในโค้ดปฏิบัติการ

// เราจะให้ความคิดของเราเป็นรหัสได้อย่างไร?

// วาดรูปวงรีในวงรี

วงรี (กว้าง / 2 , สูง /> 300 ); // วาดดวงตาสองข้างสองวงรีประมาณ 2/3 ขึ้นใบหน้าและ 1/5 ขนาดของรูปใบหน้า วงรี (กว้าง / 2 - 40 <, สูง / 2 - 50 , 40 , 40 ); รูปวงรี (กว้าง / 2 + 40 , สูง / 2 - 50 , 40 << 40 ); ตัวอย่างด้านล่างแสดงให้เห็นถึงเทคนิคและโครงสร้างที่ซับซ้อนมากขึ้นในการเขียนโค้ดปลอม: ถ้าคะแนนของนักเรียนสูงกว่าหรือเท่ากับ 60 พิมพ์ "Well Done! " อื่น พิมพ์" ขออภัยคุณล้มเหลว " เมื่ออ้างถึง pseudocode ที่มีโครงสร้างมีคำศัพท์มาตรฐานที่แสดงตรรกะอัลกอริทึมเช่น SEQUENCE , ในขณะที่ > IF-THEN-ELSE

และโครงสร้างเพิ่มเติมที่มีประโยชน์เช่น

REPEAT-UNTIL CASE และ

FOR ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นที่เข้าใจกันโดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์และเป็นประโยชน์ในการสร้างข้อกำหนดโดยไม่ต้องใช้คำแสลงหรือคำที่เป็นส่วนตัวซึ่งบุคคลอื่นอาจไม่เข้าใจ SEQUENCE หมายถึงการปฏิบัติงานด้านบนสุดไปจนถึงด้านล่างตามลำดับ ในขณะที่ เป็นลูปที่ทำซ้ำจนกว่าจะมีการระบุเงื่อนไขที่กำหนดไว้เมื่อเริ่มต้น IF-THEN-ELSE คือการตัดสินใจระหว่างสองเงื่อนไข: ตัวอย่าง IF HoursWorked> NormalWeek THEN แสดงข้อความเวลาทำงานล่วงเวลา อื่น ๆ

แสดงข้อความ timesheet ปกติ < REPEAT-UNTIL

• เป็นลูปที่ทำซ้ำจนกว่าจะมีการปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในตอนท้าย ตัวอย่าง
• REPEAT ลำดับ
• จนถึงกรณี กรณี

ให้การตัดสินใจหลายอย่างขึ้นอยู่กับค่าของนิพจน์ สำหรับ คือลูปนับซ้ำ โปรดทราบว่าสำหรับแต่ละงานหรือกระบวนการใช้ END

• / ENDIF

(ซึ่งใช้ IF) ในตอนท้ายเพื่อ ระบุว่าเป็นจุดสิ้นสุดหรือผลลัพธ์ เมื่อโครงสร้างถูกซ้อนอยู่ภายในกันและกันจะต้องมีการเยื้องไว้อย่างชัดเจนจากโครงสร้างหลักดังนั้นคำพูดทั้งหมดที่แสดงการพึ่งพาควรเว้นไว้ ด้วยคำกริยาคำว่า 'doing' ใช้คำต่างๆเช่น Process, Computer, Reset, Increment, Add, Multiply, Print, Display ฯลฯ และสังเกตการเยื้องย่อหน้าเพื่อกระตุ้น pseudocode ที่ต้องการ ตอนนี้ให้ดูที่อัลกอริทึมและวิธีการที่แตกต่างกันไปเป็น pseudocode

• ประการแรก
• คืออะไร?

"อย่างไม่เป็นทางการอัลกอริทึมคือขั้นตอนการคำนวณที่กำหนดไว้อย่างละเอียดซึ่งจะต้องมีค่าบางอย่างหรือชุดค่าเป็น input และสร้างค่าบางส่วนหรือชุดค่าเป็น เอาท์พุท อัลกอริทึมจึงเป็นลำดับของขั้นตอนการคำนวณที่แปลงข้อมูล ให้เป็นผลลัพธ์ [ii]

ดังนั้นในคำศัพท์ที่ง่ายกว่านั้นอัลกอริทึมคือตรรกะรหัสปฏิบัติการที่กำหนดโดยลำดับของขั้นตอนในการแก้ไขปัญหาหรือดำเนินการให้เสร็จสิ้น

ไม่เหมือนกับ pseudocode บุคคลที่เขียนอัลกอริทึมจะต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมเพราะถูกแปลโดยคอมพิวเตอร์ -

ไม่ใช่นักพัฒนา

- เพื่อดำเนินการจัดการใช้เข้ารหัสและดึงข้อมูล อัลกอริทึมจะแนะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในตรรกะโค้ด ข้อผิดพลาดในรูปแบบการเขียนโปรแกรมใด ๆ จะป้องกันไม่ให้การดำเนินงานเหล่านี้ประสบความสำเร็จซึ่งเป็นที่ที่ต้องใช้ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม เมื่อเขียนโค้ดเทียมในขั้นตอนการวางแผนโปรดจำไว้ว่าอัลกอริทึมต้องมีประสิทธิภาพมุ่งเน้นและบรรลุผลสิ้นสุด ทุกด้านของการแก้ปัญหาต้องได้รับการพิจารณาเสมอ

อัลกอริทึมทำอย่างไร? โดยพื้นฐานแล้วจะดำเนินการโดยทริกเกอร์หรือกระบวนการหรืออัลกอริทึมอื่นและยอมรับข้อมูลเป็นอินพุท ข้อมูลผ่านขั้นตอนของคำแนะนำและ manipulations เพื่อผลิตผลลัพธ์

ข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในตัวแปรและแต่ละตัวแปรมีชื่อสำหรับอัลกอริทึมเพื่อกำหนดข้อมูลให้กับข้อมูลนั้นในระหว่างกระบวนการดำเนินการ

อัลกอริธึมยังมีชื่อเนื่องจากสามารถรวมการอ้างอิงและการเรียกใช้อัลกอริทึมอื่น ๆ เมื่อมีการพัฒนาอัลกอริทึมอาจมีความซับซ้อนและความซับซ้อนได้โดยไม่คำนึงว่าจะใช้ซอฟต์แวร์เขียนโค้ดและดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการกำหนดอย่างถูกต้องเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ถูกต้องและเป็นที่ต้องการ

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงในการออกแบบและการใช้งานอัลกอริทึมคือวิธีการที่รวดเร็ว นี่เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดมากขึ้นกับผู้ใช้ปลายทางที่คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์และอุปกรณ์ที่เร็วกว่า ตัวอย่างเช่นการใช้ตัวกรองกับเกณฑ์การค้นหาและการรอผลการค้นหาที่ยาวนานผิดปกติอาจเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถทนได้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์จะสามารถตรวจสอบว่าจะรับข้อมูลได้อย่างไรและเมื่อไรข้อมูลจะถูกกรองในกระบวนการย่อย ฯลฯ การเขียนตรรกะรหัสที่ทำให้กระบวนการใด ๆ ที่ทำงานช้าลงมีผลกระทบในเชิงลบต่อผู้ใช้นักพัฒนาซอฟต์แวร์และธุรกิจ

โดยสรุปแล้ว pseudocode เป็นเรื่องเล่าที่สำคัญสำหรับการวางแผนตรรกะโค้ดและการใช้โซลูชันที่มีประสิทธิภาพ โซลูชั่นเหล่านี้ถูกนำมาใช้โดยใช้อัลกอริทึมที่มีโครงสร้างที่ดีมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและเป็นที่ต้องการ